คำอธิบาย
พระแม่มนสาเทวี เป็นเทวีแห่งงูและอสรพิษ เป็นพระธิดาแห่งพระศิวะ กล่าวไว้ว่า ทรงกำเนิดจากพระหทัยของพระกัศยปมุนี จับพระนางภัทรุ ทรงเป็นที่โปรดปรานของพระศิวะเยี่ยงพระธิดา มีพรวิเศษที่สามารถชุบชีวิตมนุษย์ขึ้นมาได้ ทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากและมีพลังอำนาจมาก พระองค์ปรารถนาจะได้รับการบูชาในโลกมนุษย์ เพราะมิทรงได้รับอนุญาตจากพระนางปารวตีให้ประทับบนเขาไกรลาส ด้วยพระแม่อุมาทรงไม่ยอมรับว่าเป็นพระธิดาของพระองค์ และด้วยเหตุที่ว่าพระนางเป็นธิดาพระศิวะที่เกิดจากสาวงามนางหนึ่งพระแม่อุมาเทวีจึงไม่ค่อยโปรดปรานมนสาเทวีเท่าไร มนสาเทวีจึงลงจากเขาไกรลาสมาอยู่ที่โลกมนุษย์
พระนางมนสาเทวี เป็นที่เคารพสักการะของชาวฮินดู ในอินเดียถือว่าพระแม่มนสาเทวี เป็นผู้ให้ทรัพย์สินเงินทองและช่วยในการรักษาโรคต่างๆ ให้หาย มีตำนานกล่าวว่า เป็นเทพองค์เดียวที่พระแม่ปารวตีทรงอนุญาตให้บูชาได้ด้วยการถวายดอกไม้ด้วยมือซ้าย เพราะตามหลักการถวายของเทพชั้นสูงในอินเดียต้องถวายด้วยมือขวาเท่านั้น
ความเชื่อของอานิสงส์ จากการบูชาพญานาคราช
จะทำให้มีความผาสุก ร่มเย็น ปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตรายสารพัด มีชีวิตที่ราบรื่น สุขทั้งกายสุขทั้งใจเหมือนน้ำเย็นหุ้มห่อไว้ตลอดเวลาเพราะ พญานาคเป็นเจ้าแห่งความร่มเย็นผาสุก
จะทำให้มีเสน่ห์ มีเมตตามหานิยม มีแต่คนหลงรัก ไปทางไหนทิศใดจะมีแต่คนคอยช่วยเหลืออุปถัมภ์ เพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งเสน่หากามคุณ
จะทำให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา พญานาคเป็นเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ อยากได้เงินเดือนเพิ่ม อยากก้าวหน้าในอาชีพ อยากได้บ้านใหม่รถใหม่ อยากประสบความสำเร็จ อยากได้โชคลาภ บูชาพญานาคแล้วขอพร จะได้สิ่งนั้นอย่างเหลือเชื่อ เกินกว่าที่ใครจะคาดถึง
อยากเติบโตในอาชีพการงาน อยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ อยากเป็นเจ้าคนนายคน อยากมีอำนาจบารมี มีผู้คนนับหน้าถือตา ต้องหมั่นบูชาพญานาคราชเพราะพญานาคเป็นเจ้าแห่งอำนาจบารมี อยู่เบื้องหลังการสร้างอาณาจักรโบราณทั้งปวง ผู้ปกครองอาณาจักรแต่โบราณล้วนผูกพันกับพญานาคทั้งสิ้น
อยากมีโชคมีลาภ เสี่ยงโชคเสี่ยงดวงให้มีทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ต้องบูชาพญานาคราช เพราะพญานาคราชเป็นเจ้าแห่งโชคลาภ ผู้คนต่างกราบไหว้บูชาพญานาคราชเพื่อขอโชคลาภ หลายคนบุญมาฟ้าเปิดบังเกิดโชคลาภร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี
บทสวดบูชาพระแม่มนสาเทวี
คาถาบูชาพระแม่มาริษา
โอม ศรีมาตา มัลชา เดวี
โอม หรีม ศรีม กลีม โอม มนสาเทวไย สวาหะ
ตั้งนะโม 3 จบ
“นะติตัง พญามะ นาคะ อภินัง นาคา สาธุโนภันเต ยะมะ ยะมะ”